วัดพระธาตุลำปางหลวง

http://pra-thart-lampang-loung.blogspot.com/ Wat Phra That LamPang Luang

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2552

วัดพระธาตุลำปางหลวง

หลายครั้งที่ผมจะต้องเดินทางไปเชียงใหม่ เพื่อจะลดระยะทาง ใช้ทางลัด ไม่เข้าตัวเมืองลำปาง โดยใช้เส้นทางอำเภอเกาะคา ไปอำเภอห้างฉัตร สามารถลดระยะทางได้ประมาณ 15 กิโลเมตร หากเราใช้เส้นทางลัดนี้ ก็จะผ่านวัดคู่บ้านคู่เมืองลำปาง คือวัดพระธาตุลำปางหลวง วัดนี้เป็นวัดที่น่าสนในมีประวัติความเป็นมายาวนานเป็นสถานที่ ๆ ควรสการะบูชาเป็นอย่างยิ่ง และมีความขลัง ทำให้ผมต้องแวะถ่ายรูปอยู่หลายครั้ง วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินดินสูงประมาณ สามช่วงคนยืนต่อกัน ถ้าต้องมองมาจากใกล ๆ ก่อนถึงวัดสักกิโลหนึ่ง ทำให้นึกถึง เมืองโบราณ ที่ไหนสักที่หนึ่ง เหมือนสถานที่ถ่ายละคร ฉากภาพสมัยก่อน เมื่อผ่านเข้ามาในบริเวณวัดพระธาตุลำปางหลาง ทำให้ต้องทึ่งกับความงดงานของศิลป์ล้านนาโบราณ ที่ยังคงบูรณะใว้หลายช่วงสมัย ให้คงอยู่ในสภาพเดิม เริ่มตั้งแต่ทางขึ้น เป็นบันใดพระยานาคห้าหัว มีรูปลักษณ์เป็นของตัวเองไม่เหมือนที่ไหน ด้านหน้ายังมีสิงค์ยืนคู่อยู่หน้าหัวบรรใดพระยานาค ด้านหางพระยานาคเป็นประตูโขง ซุ้มสี่ทิศซึ่ง ใช้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดลำปาง



เมื่อได้เข้าไปผ่านซุ้มประตูโข่ง ภายในกำแพงด้านใน เข้าไปสการะบูชา พระประธานด้วยธูปเทียนดอกไม้ ตรงนี้ทางวัดขอไม่ให้จุดธูปเทียนบริเวณนี้ ถ้าต้องการจุดธูปเทียนให้ไปจุดหน้าพระธาตุแทน เพื่อไม่ต้องการให้ควันธูป กระจายไปทั่วรบกวนระบบหายใจ และไม่ทำให้ระคายเคืองตาผู้มากราบไหว้


หลังกราบไหว้เรียบร้อยแล้ว ก็ถือโอกาสเดินไปรอบ ๆ บริเวณวัด ศึกษาหาความรู้ประวัติความเป็นมา ร่วมทำบุญ บริจาค และยังได้อธิฐาน เสี่ยงทาย พระเจ้าทันใจ ด้วยการวัดวา ผู้ใดที่จะเสี่ยงทาย เพียงเริ่มด้วยการ นำไม้วัดวาด้วยการกางแขนทั้งสองข้างให้สุด ไม้วาด้านหนึ่งอีกด้านหนึ่งใช้หนังยาง เลื่อนมาที่สุดปลายนิ้วมือพอดี เมื่อวัดเสร็จให้อธิฐานขอพระเจ้าทันใจ เมื่ออธิฐานเสร็จ ให้มาวัดวาอีกครั้ง ให้เปรียบเทียบดูว่า ถ้าวาที่วัดได้หลังการอธิฐาน ยาวกว่าครั้งแรกหรือไม่ ถ้ายาวกว่าแสดงว่าจะสมความปราถนา เรียกว่าแทบจะทุกคนครับยืดกันแบบสุด ๆ ยาวกว่าที่วัดใว้ครั้งแรกแทบทุกคน หากถ้าใครได้มีโอกาสไปนมัสการ ณ ที่แห่งนี้ก็อย่าลืมวัดวาสักครั้ง ผมก็ได้มีโอกาสวัดครั้งแรกก็ที่นี่แหละครับ เพราะวัดอื่นเห็นแต่ให้เสี่ยงเซียมซี แต่ไม่เห็นในสถานที่แห่งนี้เลย














เมื่อเดินมาทางด้านหลังพระธาตุ มาพบโบถส์มืด โบถส์นี้ห้ามสุภาพสตรีขึ้น เมื่อเข้าไปในโบถส์ ปิดประตุไม้จนไม่มีแสงเข้า ก็จะเห็นปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ คือเป็นภาพ พระธาตุลำปางหลวงหัวกลับ บนผืนผ้าสีขาว ซึ่งเป็นภาพที่เกิดจากการเดินทางเป็นเส้นตรง ของแสงลอดรูรับแสงขนาดประมาณ 1 นิ้ว ไปกระทบกับฉากผ้าขาว ทำให้มองเห็นเป็นภาพ พระธาตุหัวกลับ ซื่งปรากฏการณ์แบบนี้ เป็นเทคนิคเดียวกัน กับกล้องภ่ายรูป ซึ้งการถ่ายรูปภาพพระธาตุหัวกลับครั้งนี้ผมได้มีโอกาสใช้กล้องถ่ายรูปคุณภาพดีมากจับภาพ พระธาตุหัวกลับมาฝาก
รูปรับแสงจากช่องไม้ที่ทำให้เกิดภาพพระธาตุลำปางหลวงหัวกลับ แต่เสียดายที่สุภาพสตรีไม่สามารถเขามาเห็นภาพนี้ด้วยตาตนเองได้แต่ ก็ยังมีโอกาสได้เห็นภาพแบบนี้จากอีก ภายใน วิหารพระพุทธ ด้านข้างของพระธาตุ